ทริป สบายๆ สายหมอบ กับเพื่อนที่รู้ใจ และรถคู่ใจ

ทริป สบายๆ สายหมอบ กับเพื่อนที่รู้ใจ และรถคู่ใจ

Yamaha Grand Filano รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์จริงๆเป็นสมาร์ทสไตล์พรีเมียม เป็นออโตเมติกแฟชั่นพรีเมียม ที่ครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศร่วม 10 ปีด้วยความคลาสสิคสไตล์โมเดิร์น ไฟหน้าเป็นแบบFull LED  และสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ Blue Core Hybrid 125cc ประหยัดน้ำมันมีสันใหม่โดดเด่น สำหรับวันนี้ทาง 2fast เราได้ Grand Filano สีชมพูมาขับขี่ออกทริปเชิงท่องเที่ยวเข้าหน้าฝนแล้วธรรมขาติ2ข้างทางก็น่าจะเขียวขจีมองไปทางไหนก็สดชื่นเราก็เลยชวนพรรคพวกที่ขอบขับขี่ท่องเที่ยว เส้นทางที่เราวางไว้ก็จะเป็นเส้นทางนครนายกเส้นอำเภอบ้านนา



วันนี้เราก็จะมี เพื่อนร่วมทริป FRMพี่เอ๋ใช้Grand Filano สีเทา จักรยานยนต์เวิล์ดพี่อะตอมใช้ Aerox ไซเคิลโรดพี่เดชใข้ Texmax อินไซด์มอเตอร์เรชซิ่งพี่หน่อยใข้Grand Filano สีน้ำเงิน แม็กซิมั่มสปีด พี่กุ้งจะเป็นตากล้อง พร้อมด้วยเจ๊เยาเรชซิ่งที่มาร่วมทริปในครั้งนี้ นัดเจอกันที่ PTT คลอง 7 ทานกาแฟและคุยเรื่องเส้นทางก็พร้อมออกเดินทาง เพราะอากาศวันนี้ออกจะครึ้มๆมีเมฆพอสมควร เรามุ่งหน้าเส้นนครนายก แยกอำเภอบ้านนาจุดหมายของเราจะเป็นวัดเลขธรรมกิตต์ อยู่ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา นครนายกนี่เอง

ใข้เวลาไม่นานเราก็มาถึงตัววัดร่มรื่นเหมือนมีมนต์ขลังจุดเด่นของที่วัดคือประตูกาลเวลาเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีที่ซ่อนตัวอยู่แม้พระอุโบสถเดิมเหลือแต่ซากปรักหักพังไปมากปรากฏเพียงผนังบานหน้าต่าง แต่ปรกโพธิ์หรือรากต้นโพธิ์ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนยังคงห่อหุ้มความศรัทธาได้ถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะบริเวณประตูทางเข้าโบสถ์ปรกโพธิ์ หรือพระอุโบสถหลังเก่า เชื่อกันว่าเป็น “ประตูกาลเวลาที่นำไปสู่ความโชคดี” ผู้ที่ลอดใต้ปรกโพธิ์นี้แล้วขออธิษฐานจะสมหวังและประสบความสำเร็จ  เราใช้เวลาไหว้สักการะอยู่ปะะมาณ1ชั่วโมงก็พร้อมเดินทางมุ่งหน้าไปอีกวัดหนึ่งที่มีจัดเด่นมีซุ้มไผ่



วัดจุฬาภรณ์วนาราม จัดสร้างขึ้นมาทางวัดได้ปลูกต้นไผ่ 2 ข้างทางเป็นแนวทางยาวด้านซ้ายและด้านขวาของเส้นทางเข้าวัดจุฬาภรณ์วนารามประมาณ 500-600 เมตร พอต้นไผ่โตเต็มที่ยอดต้นไผ่โอนเข้าหากันตามธรรมชาติก็เลยกลายเป็น “อุโมงค์ไม้ไผ่เขียวขจี” สวยงามจริง ๆ กลายเป็นจุดเช็คอินที่ใครมาที่นี่ต้องไม่พลาดเก็บรูปสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก แต่ความสวยงามของอุโมงค์ต้นไผ่นั้นอยู่ที่ช่วงเวลาแสงตะวันส่องลงมาถ่ายรูปถ่ายแบบโพสต์ท่าได้งดงาม เราเช็คอินกันเสร็จก็ถึงเวลาบ่ายกว่าท้องร้องแล้วละสิ 

มาที่นี่แล้วเค้าบอกต้องไปลองทานอาหาร ร้านไม่น่าอร่อย แค่ได้ยินชื่อก็อยากจะรู้ว่าไม่น่าอร่อยแล้วมันไม่น่าอร่อยยังไงเมื่ออยากรู้ก็ต้องไปดูให้เห็นไปลองให้รู้  ไปถึงร้านเป็นร้านเล็กๆที่มีลุงกับป้าช่วยกันทำแต่ชื่อเมนูอาหารแต่ละอย่างน่าสนใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยไม่น่าอร่อยแต่อร่อยมากให้เยอะมากกุ้งตัวใหญ่แถมมีหมูกรอบโรยหน้าให้ด้วย จานเด็ดของที่นี่คือ หมูกรอบ(เสียดายคนตายไม่ได้กิน) เป็นชื่อที่เห็นแล้วแบบว่าคิดได้ไง เป็นหมูที่อบก่อนแล้วนำมาทอดไล่น้ำมันออกจะกรอบอร่อยไม่อมน้ำมัน อีกเมนูข้าวคลุกกะปิ(คุณจะเสียใจถ้าไม่ได้สั่ง)ทำให้เราต้องสั่งคือข้าวคลุกะปิเค้าทำสดๆแถมมีเนื้อปูเป็นก้อนๆใส่มาให้เราด้วย เมนูนี้ก็ต้องยกนิ้วให้ อีกเมนูชื่อสุดจี๊ด ข้าวหมูกรอบ (อย่าพึ่งตายถ้ายังไม่ได้กิน)ทำให้เราก็ต้องสั่งมาอีกก็ต้องยอมรับความกรอบอร่อยของหมูและน้ำจิ้มที่กินคู่กลมกล่อมจริงๆถ้าเพื่อนผ่านมาทางบ้านนาแวะชิมความอร่อยกันได้แนะนำเลยร้านนี้ เมื่ออิ่มเรียบร้อยเราพร้อมเดินทางจุดหมายของเรา อยู่ที่เคียงธารินทร์รีสอร์ต ตั้งอยู่บนเขาท่ามกลางธรรมชาติเราเดินทางมาถึงจุดหมายฝนก็เทลงมาพอดีเป็นโชคดีในการเดินทางทริปนี้ไม่โดนฝน



บรรยากาศที่พักเราจะติดกับริมน้ำเดินไปประมาณ20เมตรค่ำคืนนี้เรามีพ่อครัวหัวป่ามาทำอาหารพ่อครัวพี่หน่อย เมนูค่ำคืนนี้จะมีผัดเผ็ดหมูป่า ต้มยำกุ้งน้ำข้น หมูทอดน้ำปลา  หมูกะทะ เป็นมื้ออาหารค่ำที่อร่อยสุดๆเสวนากันจนดึกก็แยกย้ายพักผ่อน



 เช้าวันใหม่อากาศสดชื่นฝนลงเม็ดเบาบางอยู่อาหารเช้าพ่อครัวหน่อยของเรามีข้าวต้มหมู ผัดมะระใส่ไข่ ปลาทอดกระเทียม กุ้งผัดพริกเกลือ เป็นมื้ออาหารเช้ากลางวันควบกันที่อร่อยสุดๆเรารอในซาเม็ดแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับท่ามกลางอากาศเย็นสบายวิ่งลงเขามาตามทาง มีโค้งให้เล่นบ้างเล็กน้อยก็ถึงทางตรฝออกบ้านนาเราเจอร้านกาแฟเล็กๆบรรยากาศน่านั่งมากแวะกันจิบกาแฟขิวๆ



B/C the cafe เป็นร้านที่ใช้รถบัสมาทำเป็นคาเฟ่ไอเดียสุดยอดกาแฟก็อร่อยกลมกล่อมโดยเฉพาะช็อคมินท์อร่อยหอมหวานเย็นขึ้นจมูกทำให้สดชื่นจริงๆ เราดี่มด่ำกับบรรยากาศพอสมควร



     ได้เวลาออกเดินทางกลับโดยใช้เส้นนครนายก รังสิต-องค์รักษ์ เข้ากรุงเทพ เส้นทางวันนี้รถค่อนข้างเยอะ น่าจะเป็นรถที่ออกมาเที่ยวกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงจะเยอะยังไง แกรน ฟิลาโน เราก็ไปได้อย่างสบาย เพราะความสบายในท่านั่ง จึงทำให้เราไม่รู้สึกเมื่อยล้าแม้จะเดินทางไกล การควบคุมรถที่ง่าย จึงไม่ทำให้เราขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน เรื่องเส้นทางหรือการจราจรก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะมั่นใจใน ABS  ที่สามารถสั่งได้ทันที และที่ประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็น เงินในกระเป๋า ประหยัดมาก เติมน้ำมันถังเดียว ไปกลับได้อย่างสบายๆ อย่างนี้สิถึงเป็นรถอเนกประสงค์จริง ขี่ทำงานก็ได้ ขี่เที่ยววันหยุดก็ได้ คือไปไหนไปได้ต้องแบบนี้สิคราบบบบ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้