GT World Challenge Asia 2024

GT World Challenge Asia 2024

สนามช้างฯ จับมือภาครัฐเอกชน แถลงความพร้อมจัดศึกซูเปอร์คาร์ระดับโลก "จีที เวิลด์  ชาลเลนจ์ เอเชีย" สนามประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-12 พ.ค.นี้ ด้าน การกีฬาแห่งประเทศไทย ปักธงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ชูศักยภาพในการจัดอีเว้นต์ซูเปอร์คาร์ระดับลักชัวรี ผลักดัน-สร้างนักกีฬาอาชีพชั้นนำสู่เส้นทางมอเตอร์สปอร์ตนานาชาติ อีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและกีฬาอย่างยั่งยืน

 

ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ กรุงเทพฯ : บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด หรือ BRIC ผู้บริหารสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ภาครัฐ และผู้สนับสนุนภาคเอกชน ประกาศความพร้อมการจัดการแข่งขันรถสปอร์ต "ซูเปอร์คาร์" ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการ GT World Challenge Asia “ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ฤดูกาล 2024” โดยในงานเป็นการจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในการเปิดศึกดวลความเร็วสนามประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-12 พ.ค.นี้            ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

 

นางนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่ง       ประเทศไทย เปิดเผยว่า GT World Challenge Asia นับเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันรถซูเปอร์คาร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในทวีปเอเชีย ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์การแข่งขันระดับโลก แข่งขันใน 4 ทวีปตลอดทั้งปี ได้แก่ อเมริกา, ยุโรป, ออสเตรเลีย และเอเชีย  โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ 1 ใน 7 สนามที่มีการจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย  จากทั้งสิ้น 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย,ไทย, ญี่ปุ่น, และจีน

 

“การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการแข่งขันนี้ เล็งเห็นว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ทั้งในแง่การแสดงศักยภาพของคนไทยในการรองรับอีเว้นต์ซูเปอร์คาร์ระดับลักชัวรี ซึ่งเป็นการรวมตัวของรถแข่งแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่หาดูได้ยาก นำมาให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ชมโดยไม่ต้องบินไปต่างประเทศ ทั้งยังได้ร่วมเชียร์นักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันตลอดฤดูกาล อาทิ “เต๊อะ” วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ “ท็อป” ธนาตย์ เสถียรถิระกุล และยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่นักแข่งมืออาชีพ สร้างนักแข่งหน้าใหม่ ปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงกีฬา พร้อมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทย และจังหวัดบุรีรัมย์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก กระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนอีกด้วย”

 

ด้านนายเบนจามิน ฟรานาสโซวิซิ ผู้จัดการทั่วไป ฟานาเทค จีที เวิล์ด ชาลเลนจ์ เอเชีย พาวเวอร์ด บาย เอ ดับเบิ้ลยู เอส กล่าวว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา GT World Challenge Asia ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่มากไปกว่านั้น ในฤดูกาล 2024 นี้ จะเป็นฤดูกาลที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น กับนักแข่งที่ใช้รถ GT3 ตลอดฤดูกาลรวมทั้งสิ้นกว่า 33 คน จาก 8 ทีมโรงงาน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของการแข่งขัน รวมถึงนักแข่งชั้นนำจากนานาชาติที่เข้าร่วมประลองความเร็วกับนักแข่ง GT ชั้นนำของเอเชีย ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันที่ทวีปเอเชียนั้นพิเศษกว่าที่อื่นๆ ในด้านของขนาดของการแข่งขัน ตอนนี้  การแข่งขันที่เอเชียเป็นรองเพียงแค่รายการแข่งในยุโรปเท่านั้น

 

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า GT World Challenge Asia ถือเป็นงานแข่งรถยนต์ซูเปอร์คาร์ในระดับ International series ที่ใหญ่ที่สุดของสนามช้างฯ ในปี 2024 สำหรับการแข่งขันในปีที่ผ่านมาถือว่า ตื่นเต้นครบรสชาติ สมการรอคอยที่ GT World ไม่ได้มาสนามช้างฯไป 2 ปี ในช่วงโควิด 19 การจัดปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าคุ้มจุใจแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต สุดๆ เพราะได้ชมทั้ง wet race และ dry race ในคราวเดียว ซึ่งรับประกันได้ว่าการแข่งขันในปีนี้จะสนุก ตื่นเต้น เร้าใจไม่แพ้ปีที่แล้วอย่างแน่นอน

 

ไฮไลต์สำคัญคือการได้ชมทัพซูเปอร์คาร์ในฝัน ดวลกัน 2 เรซ คือในวันเสาร์ที่ 11  และอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ รวมทั้งกิจกรรมพิตวอล์คที่มีอย่างจุใจ เปิดโอกาสให้แฟนๆ ที่ซื้อบัตรเข้ามาชมการแข่งขัน สัมผัสกับรถ Supercar ระดับ GT3 อย่างใกล้ชิดและได้กระทบไหล่กับนักแข่งระดับชั้นนำของโลก ซึ่งรถแต่ละคันที่ลงแข่งมีมูลค่ารถและการทำทีมที่สูงมาก จนในปีที่แล้วได้ถูกยกให้เป็น  “พิตวอล์คพันล้าน”

 

“ด้านความพร้อมของการจัดการแข่งขัน จุดเด่นที่สนามช้างฯ คือ มาตรฐานสนามแข่งที่ได้รับการ Certified โดย FIA (หรือสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ในการจัดการแข่งขันรถ สูตร 1 หรือฟอร์มูล่าวันได้เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการจัดงานกีฬาระดับเอเชียและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าการแข่งขันรถยนต์ระดับ International Series แบบนี้ 1 ปี มีเพียงแค่ครั้งเดียว มาช่วยกันเชียร์และส่งกำลังใจนักแข่งไทยให้คว้าชัยโฮมเรซให้ได้ครับ”


ทั้งนี้ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2024 ทำการแข่งขันทั้งสิ้น 7 สนาม ได้แก่ สนาม 1  ระหว่าง           วันที่ 18-21 เม.ย. ที่ สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย, สนาม 2 วันที่ 10-12 พ.ค. ที่สนามช้าง      อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  จากนั้นอีก 4 สนามดวลกันในประเทศญี่ปุ่น โดยสนาม 3      วันที่ 7-9 มิ.ย. ที่สปอร์ตแลนด์ ซูโก้, สนาม 4 วันที่ 21-23 มิ.ย. ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์, สนาม 5 วันที่ 5-7 ก.ค. สนามซูซูกะ, สนาม 6 วันที่ 23-25 ส.ค. ที่โอคายาม่า, สนาม 7 วันที่     13-15 ก.ย. ที่เซี่ยงไฮ้  ประเทศจีน

สำหรับ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2024 สนามที่ 2 ที่ประเทศไทย จะเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยจะซ้อมในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม และจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พร้อมกับดวลความเร็วเรซแรกในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จากนั้นจะดวลความเร็วเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้


เริ่มจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่  Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ allticket.com บัตร VIP 1 วัน ราคา 2,000 บาท  2 วัน ราคา 3,000 บาท และ บัตร GRANDSTAND 1 วัน ราคา 200 บาท  2 วัน ราคา 300 บาท

พิเศษ ! เพียงซื้อบัตรชมการแข่งขัน GT World Challenge Asia มีสิทธิ์ลุ้นรับบัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass ชมการแข่งขันโมโตจีพี 2024 แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้