แลมเบรตต้า (LAMBRETTA) แบรนด์สกู๊ตเตอร์พรีเมียมคลาสระดับตำนานจากอิตาลี ที่มีประวัติความเป็นมาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1947 จนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 76 ปี และแม้จะเพิ่งกลับมาเดินหน้าบุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มพิกัดเพียงช่วงหนึ่งปีให้หลังมานี้ แต่ก็เรียกได้ว่า เป็นการกลับมาทวงบัลลังก์ของตำนานสกู๊ตเตอร์จากอิตาลีได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยโมเดลใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาขยายตลาด ในรูปโฉมที่ออกมาโดนใจกลุ่มแฟนๆของแลมเบรตต้า หรือที่มีชื่อเรียกกันว่าชาวแลมเบรตติสต้า (LAMBRETTISTA) กับดีไซน์ที่แม้จะเป็นโมเดลใหม่ แต่ก็ยังคงไว้ใน DNA เอกลักษณ์แบบฉบับของแลมเบรตต้าที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดที่เพิ่งจบกันไปสดๆร้อนๆ กับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ งาน Motor Expo 2023 ซึ่งแลมเบรตต้าก็ได้เข้าร่วมภายในงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน แถมยังมาแรงคว้ายอดจองเป็นอันดับ 2 ของยอดจองประเภทรถจักรยานยนต์ภายในงาน ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ 1 ของประเภทรถสกู๊ตเตอร์โมเดิร์นคลาสสิก ที่ได้รับยอดจองในงานสูงสุดอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอิตาเลียนสกู๊ตเตอร์พรีเมียมคลาสที่มีกระแสงมาแรง กับความเคลื่อนไหวที่มีเซอร์ไพรส์มาให้ได้ติดตามกันตลอดทั้งปี
คุณ กวิน ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ LAMBRETTA THAILAND เผยว่า “ สำหรับในปีนี้ ถือเป็นปีที่เราเดินหน้าทำตลาดกันอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้วย Products lineup ที่มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ ซึ่งปัจจุบันเรามีโมเดลด้วยกันถึง 3 รหัส ทั้ง V, X ,G ที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ โดยมี V-Special ได้แก่ V200 และ V200GP เป็นโมเดลเริ่มต้นสำหรับโมเดลที่มีบอดี้ไซส์เล็ก ตามมาด้วยตระกูล X-Series ที่ประกอบด้วย X300 , X300SR และ ใหม่ล่าสุดกับ X200 กับดีไซน์ร่วมสมัยที่โดดเด่นในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก และรุ่นใหญ่ อย่าง G350 ที่เปรียบเสมือนผลงานศิลปะระดับ Masterpiece ของดีไซน์ที่คงกลิ่นอายความคลาสสิกฉบับดั้งเดิมของแลมเบรตต้า นอกจากนี้ กับรุ่นต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ในชื่อรุ่น ‘Elettra’ EV-Concept ที่ได้นำเข้ามาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรกก็ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมภายในงานอย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
สำหรับงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมานี้ แลมเบรตต้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากแฟนๆ ชาวแลมเบรตติสต้าทุกท่าน จนมียอดจับจองในช่วงงานถึง 909 คัน และยังมีที่จองเข้ามาผ่านทางระบบ Booking ในออนไลน์อีกด้วย โดยรุ่นที่มียอดจองสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 คือรุ่น X300 / X300SR รองลงมาคือ X200 , G350 และ V200 / V200GP ตามลำดับ ซึ่งเมื่อดูตัวเลขยอดขายของแลมเบรตต้าในปีนี้ ก็พบว่ามีตัวเลขการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วสูงขึ้นถึง 2 เท่า หรือเติบโตกว่า 200%
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณ แลมเบรตติสต้าทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ ที่ให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา ซึ่งในปีหน้า เรายังคงมีกิจกรรมที่น่าสนใจ และความสนุกใหม่ๆ มาให้ทุกท่านได้เข้ามาร่วมสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจไปด้วยกัน แต่จะเป็นกิจกรรมอะไรนั้น ต้องรอติดตามกันในปีหน้า”